013 : เพราะการเรียนรู้มีอยู่มากมาย “การเลือก” เลยกลายเป็นสิ่งจำเป็น
.
– บัญชีของคุณถูกระงับการใช้งาน –
เช้าตรู่ของวันเสาร์ ผมได้รับข้อความนี้หลังจากกดปุ่มสีน้ำเงินเข้มในหน้าจอ Smartphone เพื่อเข้าสู่โลกออนไลน์อย่าง Facebook ก่อนที่จะพบว่าบัญชีถูกระงับการใช้งานและต้องถูก “ตรวจสอบความมีตัวตน” ของตัวเอง
เชี่ยยยยยยยย… กูไม่น่าอุตริไปเปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ส่วนตัวเลย!! ผมอุทานในใจเมื่อคิดถึงสาเหตุที่ทำให้ถูกระงับการใช้งาน เนื่องจากความสนุกสนานเพียงชั่วครู่ ลองไปเปลี่ยนชี่อโปรไฟล์ของตัวเอง จากชื่อจริงภาษาอังกฤษ Thanom Ketem ให้กลายเป็น “พรี่หนอม” พยางค์เดียวสั้นๆแบบไม่มีนามสกุล (ใครอยากลองเปลี่ยน อ่านได้ที่ “วิธีเปลี่ยนชื่อเฟสบุค ไม่มีนามสกุล ด้วย Google chrome” )
เมื่อบัญชีถูกระงับการใช้งาน นั่นย่อมแปลว่าผมไม่สามารถจะเสือก เอ้ย เสพเรื่องราวและข่าวสารของชาวบ้านไปโดยปริยาย จะติดต่อใครผ่านโปรแกรม Chat ก็ไม่ได้ และที่สำคัญเพจที่ใช้ทำงานก็ไม่สามารถโพสได้ เหมือนถูกบังคับกลายๆให้หยุดใช้งานทั้งระบบ!
แต่ก็ดีเหมือนกันนะ.. จะได้เลิกติด Social ไปสักพัก #เสียงหล่อข้างในจิตใจของผมร้องทัก ระหว่างที่อัพรูปบัตรประชาชนส่งไปในระบบเพื่อยืนยันตัวตนกับทาง Facebook ให้บัญชีกลับมาใช้การได้อีกครั้งหนึ่ง
แหม่… ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า โลกที่ไม่มี Facebook นั้นช่างเงียบสงบ เพราะในวันนั้นทั้งวัน ผมไม่ได้พูดคุย (Chat) กับใครสักเท่าไร แถมปกติผมใช้ Facebook Messenger เป็นหลักมากกว่า Line ที่มักจะไว้อ่านเงียบๆ หรือนานๆเข้าไปดูที (ใครที่เคยคุย Line กับผมคงเข้าใจ เมื่อวันก่อนเพิ่งได้อ่านข้อความ Happy Birthday จากน้องคนหนึ่งที่ส่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว – -“)
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันครับว่า … เมื่อไม่มี Facebook แล้วงานทั้งหมดก็เหมือนจะเสร็จรวดเร็วขึ้น อย่างที่บอกแหละครับว่า เมื่อไม่มีอะไรให้เข้าไป “เสพ” มันก็เลยทำให้ผมมีเวลา Focus กับการทำงานของตัวเองมากขึ้น งานที่คั่งค้างเหมือนกลางอาทิตย์ก็เสร็จสนิทในวันเสาร์เป็นที่เรียบร้อย – -”
– เมื่อถึงเวลาสำคัญ เราจะรู้ว่าอะไรนั้นจำเป็น –
สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ควรทำ สิ่งที่เราทำ สามอย่างนี้คือสิ่งที่แตกต่างกัน เรารู้ว่าเราต้องออกกำลังกาย แต่ด้วยภาระงานทีต้องทำ กลับทำให้เราเลือกที่จะเสียเวลาโดยการนั่งอยู่เฉยๆ – ผมเชื่อว่าใครหลายคนเคยเป็นแบบนี้ ซึ่งมันฟังดูแล้วก็พิลึกดีเหมือนกันนะที่เรามักจะเลือกทำในสิ่งที่ไม่ควรทำและลืมสิ่งที่ต้องทำไปซะงั้นแหละ
เมื่อไม่ได้มองดูการเคลื่อนไหวของโลกภายนอกที่เร่งรีบ (ผ่านโลกออนไลน์) ผมรู้สึกคล้ายโลกออฟไลน์ของตัวเองหมุนช้าลง หนึ่งเรื่องที่เห็นคืองานที่เสร็จแบบรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอย่างที่ว่าไป สอง คือ เราได้นั่งมองและพูดคุยกับคนรอบตัวมากยิ่งขึ้น และสาม ผมเพิ่งรู้ว่า Facebook แม่งมีความสำคัญกับชีวิตเราขนาดนี้
เมื่อเราถูกจำกัดอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยไป
เราอาจจะเข้าใจขึ้นมาว่าอะไรมันจำเป็นกับเราจริงๆ
น่าแปลกเหมือนกันที่ผมรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองถูก Facebook ระงับการใช้งาน แต่ทุกครั้งที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ผมก็ยังคงกดปุ่ม Logo ตัว F สีน้ำเงินรัวๆ เพื่อให้มันเข้าสู่ Application เดิมๆ เหมือนย้ำตัวเองว่าไม่สามารถเข้าสู่โลกนี้ได้อีกแล้ว
ถ้าหากบัญชีถูกระงับตลอดไป กูจะทำยังไงวะ? ความคิดนี้แล่นแปล็บบบพุ่งขึ้นมาในหัว หลังจากที่ผมลืมตัวจะเข้าไปกด Like เพจของนักเขียนฝรั่งท่านหนึ่งหลังจากที่อ่านหนังสือแปลของเขาจบ ชิบหายละ!! ถ้ากูโดนบล็อกขึ้นมาจริงๆ เพจของกู ช่องทางของกู และอื่นๆที่กูต้องใช้งานในโลกนั้น มันก็ต้องหายไปหมดสิวะ #ตัวกูของกู
นั่งคิดไปคิดมาระหว่างที่บรรจงพิมพ์ตัวอักษรลงคอมพิวเตอร์ สิ่งที่จำเป็นจริงๆกับเราในการใช้งานโลกออนไลน์ มันคือ ความพอดี ไม่ใช่แค่ “มี” หรือ “ไม่มี” แต่มันต้อง “มี” ในเวลาที่ใช้ และ”ไม่มี” ในเวลาที่ไม่จำเป็น ซึ่งเรานี่แหละที่ต้องเป็นคนมองเห็นมันด้วยตัวเอง
ภาวะข้อมูลท่วมท้น (Information Overload) คือ การที่เราตัดสินใจยากขึ้นเนื่องจากข้อมูลที่มีมากเกินไป จนทำให้เกิดความยุ่งยากและหลุดประเด็นไปโดยไม่รู้ตัว นี่คือนิยามของประโยคนี้ แต่ผมมักจะเรียกภาวะนี้ที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่า Over information (ซึ่งน่าจะไม่ถูกไวยากรณ์สักเท่าไร – -“) และในหลายๆครั้งมันทำให้เราเหนื่อยจนไม่อยากรับรู้อะไร เพราะสมองถูกใช้ในการเสพเรื่องที่ไม่จำเป็นจนหมดแรง
ในโลกที่ “ง่าย” ขึ้น เราจะเห็นคนหลายๆคนมีช่องทางขับเคลื่อนให้ตัวเองเติบโตมากมาย เป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นกูรูมีความรู้ชื่อเสียง สร้างโอกาสต่างๆผ่านช่องทางที่เรียกว่า “เทคโนโลยี”
แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เห็นคนที่แพ้และท้อแท้จากการ “ปรับตัว” แบบไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนในทุกวันนี้ จนกลายเป็นว่าใครหลายคนกลายเป็นผู้ทำลายโอกาสในชีวิตของตัวเองด้วยตัวเอง
สำหรับผมแล้ว … ยิ่งเราเรียนรู้มากขึ้นเท่าไร ยิ่งเราเห็นอะไรมากขึ้น “โอกาส” นั้นจะผุดขึ้นมาราวกับเห็ดที่ขึ้นในป่าฝน แต่หน้าที่จริงๆของคนที่เห็นโอกาสนั้น คือ “การเลือก” โอกาสที่เหมาะสมและถูกต้องกับตัวเรา ซึ่งความสามารถในการเลือกนี่แหละ มันต้องใช้ประสบการณ์ ความสามารถ สัญชาติญาณ ที่แตกต่างกัน
เย็นวันเสาร์ มีอีเมลล์จากระบบเฟสบุ๊คส่งมาบอกว่า “บัญชีของคุณสามารถใช้งานได้ตามปกติ” ผม Log-in เข้าไปดูอย่างมีความสุข ราวกับคนที่เดินทางกลางทะเลทรายที่มองเห็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า
แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ.. หลังจากที่นั่งเสพเรื่องชาวบ้านไปได้สักพัก
ผมกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันสำคัญกับชีวิตผมเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป… หรือผมกำลังเลือกอะไรบางอย่างให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว ?