สวัสดีครับ ผมชื่อ “เห่า”

ผมเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง

ที่อยากจะแชร์แนวคิดแบบ “คิดบวก” ครับ

 

มีคำกล่าวของโค้ชท่านหนึ่งที่ผมชอบมากครับ

โลกนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็น..

แต่มันเป็นอย่างที่เราเห็นว่ามันเป็นอะไร

 

ดังนั้น เวลามองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัว

ผมมักจะมองเป็นเรื่องราวดีๆทั้งหมด

เพราะมันอยู่ที่ “การตีความ” ยังไงล่ะครับ

 

อะไรนะครับ..

ท่านผู้อ่านอยากรู้ว่าเป็นโค้ชท่านไหนเหรอครับ

 

ต้องขอโทษจริงๆนะครับ..

พอดีผมกดไลค์ไว้หลายร้อยเพจเรื่องนี้

เลยจำไม่ได้ว่าเป็นเพจไหนครับ #โค้ชมีเป็นร้อย

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา…

ผมไม่เคยกลัวเหตุการณ์ร้ายๆในชีวิตเลยครับ

ฝนตกหนัก โดนผลักตกท่อ เมียขว้างหม้อใส่

มอไซด์ขับปาดหน้าแล้วด่าพ่อ อาซ้อข้างบ้านด่าแม่

… เรามองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องดีๆในชีิวิตได้เสมอครับ

 

อยู่มาวันหนึ่ง ไอ้ป่านเพื่อนรักของผมตั้งคำถามว่า

“มึงหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่าวะ เห่า”

 

ผมนี่แทบจะยกมือตบกะโหลกมัน

แต่ดีนะครับที่กฎแห่งความสำเร็จสอนผมไว้ว่า

เราต้องระงับความโกรธที่มีต่อโลกใบนี้

แล้วปลดปล่อยมันออกมาด้วยพลังบวกที่ถูกต้อง

มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ทำอะไรตามอารมณ์เบื้องลึกของจิตใจ

 

ผมเลยตอบป่านไปว่า

“ไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่มันคือการคิดในสิ่งที่ถูกต้อง”

“ถ้าคิดแบบเดิมแล้วเป็นแบบนี้ ลองเปลี่ยนวิธีคิดก็ไม่เลวนะ”

 

แต่ไอ้ป่านมันยังไม่หยุดครับ.. มันยังถามต่อว่า

“แล้วทุกวันนี้ชีวิตมึงดีขึ้นยังไงวะ กูเห็นก็เป็นเหมือนเดิม”

“งานการก็ไม่ทำ เอาแต่สนใจสร้างพลังอะไรของมึงวะ”

 

(หายใจเข้าลึกๆ ออกยาวๆ) .. เอาล่ะ

ผมกำลังใช้วิธี “ตีความ” ว่าป่านเป็นห่วงผมอยู่นะครับ

“เราไม่รู้หรอกว่าเราดีขึ้นยังไง แต่เรารู้ว่าต้องดีขึ้นแน่ๆ”

“วันหนึ่งเรามีความสำเร็จเมื่อไร นายจะเป็นเพื่อนคนแรกที่เรานึกถึง”

 

ก่อนจากกัน ป่านทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้ผม

“เออ.. กูไม่ได้อยากเห็นมึงคิดบวก กูอยากเห็นมึงคิดเหมือนคนปกติ”

 

—–

 

อืม.. พอคิดไปคิดมาแล้ว

ผมต้องเปลี่ยนสังคมที่ผมอยู่แล้วล่ะครับ

ตามหลักที่ถูกต้องของ “กฎแห่งแรงดึงดูด”

 

ต่อไปนี้ผมจะหาสังคมคิดบวกแห่งใหม่

เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์…

“คิด – ทำ – สำเร็จ” ไปด้วยกัน

 

แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็แค่สงสัยว่า

มันผิดด้วยเหรอครับ.. ที่ผมเป็นคนคิดบวก?